ดินเบากำจัดแมลง
โดย อ.ดร.เยาวลักษณ์ จันทร์บางภาควิชากีฏวิทยา คณะเกษตรศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
ดินเบาคืออะไร?
ดินเบา (diatomaceous earth) หรือไดอะตอมไมท์ เป็นสารที่ได้จากการสะสมของสิ่งมีชีวิตเซลเดียวเรียกว่า diatom ที่ตายทับถมกันอยู่ชั้นดินในแหล่งน้ำจืดและน้ำทะเลนับล้านปี ในโครงสร้างของ diatom ที่เหลืออยู่จะมีส่วนประกอบของ ซิลิกาเป็นจำนวนมาก ดินเบาที่ถูกขุดนำมาใช้สามารถใช้ประโยชน์ได้หลายอย่าง เช่นอุตสาหกรรมการกรอง เป็นวัสดุดูดซับของเสีย และเป็นส่วนผสมของอิฐเบา นำมาใช้ในขบวนการแปรรูปผลผลิตทางการเกษตร และสามารถนำมาใช้เป็นสารกำจัดแมลงได้ด้วย (Subramanyam and Roesli, 2000; กรมวิชาการเกษตร, 2007)
ดินเบาฆ่าแมลงได้อย่างไร?
ลักษณะสำคัญที่ดินเบาสามารถฆ่าแมลงได้ก็คือ ดินเบาดูดซับไขมันที่ผนังลำตัวชั้นนอกของแมลงทำให้แมลงมีการสูญเสียน้ำ และผลพลอยได้จากการที่ดินเบาอาจขีดข่วนมีผลทำให้แมลงสูญเสียน้ำเช่นกันแต่นับว่าเป็นปัจจัยที่รองลงมา จากสาเหตุที่ทำให้แมลงสูญเสียน้ำดังกล่าวและเนื่องจากแมลงเป็นสิ่งมีชีวิตขนาดเล็กหากมีการสูญเสียน้ำเพียงเล็กน้อย ก็มีผลรุนแรงทำให้แมลงตายได้ (Subramanyam and Roesli, 2000)
วันอังคารที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2552
วันจันทร์ที่ 30 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
มอดฟันเลื่อย (Saw-toothed grain beetleOryzaephilus surinamensis L.)

เป็นมอดสีน้ำตาลแดง ลำตัวยาวประมาณ ๒.๕-๓.๐ มิลลิเมตรชอบทำลายเมล็ดข้าวสาลีที่ถูกมอดข้าวสารหรือมอดข้าวเปลือกกัดกินไปแล้ว พบมากในโรงยุ้งที่สกปรกและอบ ทำลายเมล็ดธัญพืชได้หลายชนิด
ปริมาณการขยายตัวของจำนวนมอดจะลดลงได้โดย
(๑) สภาพในโรงเก็บและเมล็ดมีความชื้นต่ำ
(๒) เก็บไม่ให้มีอากาศถ่ายเท
(๓) อุณหภูมิต่ำ
ดังนั้น การเก็บรักษาข้าวสาลีที่ดีควรปฏิบัติดังนี้
(๑) ก่อนเอาเข้าโรงเก็บ เมล็ดต้องแห้ง (โดยมีความชื้นต่ำกว่าร้อยละ ๑๒)
(๒) เก็บเมล็ดไว้ในภาชนะที่ปิดได้มิดชิดเพื่อ
(๒.๑) ป้องกันไม่ให้มอดเข้าถึงเมล็ด
(๒.๒) ป้องกันความชื้นและอากาศถ่ายเท ถ้าเป็นไปได้
ถ้าเป็นถังที่มีฝาบนเปิด ให้โรยขี้เถ้ากลบเมล็ดที่ปากถัง และใช้ผ้าพลาสติกคลุมปากถังก่อนปิดฝาถังเพื่อป้องกันไม่ให้มอดเข้าทำลายห้ามมิให้เก็บข้าวสาลีในกระสอบ หรือกองไว้ในโรงเก็บข้าว (เป็นแหล่งที่อยู่ของมอด)
หลังจากเก็บรักษาเมล็ดไว้ได้เป็นเวลา ๒ เดือน ให้ตรวจสอบเมล็ดว่ามีมอดเข้าทำลายหรือไม่ โดยใช้มือคลุกเคล้าเมล็ด แล้วรอดูผลสักครูหนึ่ง ถ้ามีมอดปรากฏขึ้นมา ให้นำเอาเมล็ดออกตากแดด ทำความสะอาดเมล็ดใหม่เพื่อขจัดไข่ของมอดและเศษต่าง ๆ ที่เป็นอาหารก่อนนำเมล็ดที่ตากแดดแล้วเข้ารักษาไว้ในโรงเก็บ
วันพุธที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
มอดข้าวสาร หรือ ด้วงงวงข้าว (Rice weevil - Sitophilus oryzae L.)
มอดข้าวสาร หรือ ด้วงงวงข้าว (Rice weevil - Sitophilus oryzae L.)

ลักษณะลำตัวสีน้ำตาลแก่จนถึงสีดำ ลำตัวยาวประมาณ ๔ มิลลิเมตร ส่วนหัวเรียวแหลมยาวออกมาลักษณะคล้ายงวง แมลงชนิดนี้กัดกินเมล็ดข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี และเมล็ดธัญพืช อื่น ๆ โดยที่ตัวเมียใช้ปากเจาะเข้าไปวางไข่ ในเมล็ด ตัวอ่อนกัดกินและเจริญเติบโตในเมล็ดจนเป็นดักแด้ จะเจาะเมล็ดออกมาเมื่อเป็นตัวแก่ ดังนั้น เมล็ดข้าวสาลีที่ถูกแมลงนี้ทำลาย จึงเป็นรูและข้างในเป็นโพรง ใช้ประโยชน์ไม่ได้

ลักษณะลำตัวสีน้ำตาลแก่จนถึงสีดำ ลำตัวยาวประมาณ ๔ มิลลิเมตร ส่วนหัวเรียวแหลมยาวออกมาลักษณะคล้ายงวง แมลงชนิดนี้กัดกินเมล็ดข้าว ข้าวโพด ข้าวฟ่าง ข้าวสาลี และเมล็ดธัญพืช อื่น ๆ โดยที่ตัวเมียใช้ปากเจาะเข้าไปวางไข่ ในเมล็ด ตัวอ่อนกัดกินและเจริญเติบโตในเมล็ดจนเป็นดักแด้ จะเจาะเมล็ดออกมาเมื่อเป็นตัวแก่ ดังนั้น เมล็ดข้าวสาลีที่ถูกแมลงนี้ทำลาย จึงเป็นรูและข้างในเป็นโพรง ใช้ประโยชน์ไม่ได้
วันจันทร์ที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552
Title Database Preparation for EcoDesign: Life Cycle Database of Rotary Compressor
Title Database Preparation for EcoDesign: Life Cycle Database of Rotary Compressor
Institution National Metal and Materials Technology Center
Source of Funds MTEC National Science and Technology Development Agency
Coverage 2003-07-21 to 2005-01-21
Abstract A specific tool or methodology called Life Cycle Assessment (LCA) has been developed over the past 20 years for assessing environmental burdens throughout the life cycle of products or production processes or services. Results from LCA study can be used as guidelines for designing more environmental friendly products or processes or services. To do Life Cycle Assessment of a product, one needs to have databases of resources used and emissions released to the environment. Many countries in the world have studied and developed life cycle inventory (LCI) of several products and services. However, it is still quite a new subject for Thailand, and only a few databases have been developed. This research focuses on developing a life cycle database for EcoDesign of a rotary compressor. It is an important part of an air conditioner, and consumes a lot of non-renewable resources. The main raw materials and energy for a rotary compressor production are steel, copper, cast iron, natural gas, LPG, electricity, and fuel, which are the main non-renewable resources in Thailand. The purposes of this research are as follows: To collect inventory data of the resources used and emissions released from the manufacturing of a rotary compressor; To use LCA to analyze and assess environmental impacts of a rotary compressor from manufacturing, transportation, use, and end-of-life stages; To recommend on development and improvement of rotary compressor manufacturing based on the EcoDesign concept. The boundary system is set for four stages that are manufacturing, transportation, use and end-of-life stages. The functional unit to be studied is one rotary compressor with 18,000 Btu/h. Consequently, an output of this project is a life cycle database of a rotary compressor that will be invaluable information for improving production efficiency of this product, which will in turn increase the efficiency of energy and resource usage in Thailand. Furthermore, its strategy and methodology can be used as a guideline for implementing LCA to other products.
ที่มา http://www2.mtec.or.th/th/search_sys/search_proj/detailEN.asp?proj_id=MT-B-46-MAC-07-139-I&lang=0
การเตรียมฐานข้อมูลเพื่อการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจ: ฐานข้อมูลวัฏจักรชีวิตของโรตารีคอมเพรสเซอร์
ชื่อเรื่อง การเตรียมฐานข้อมูลเพื่อการออกแบบเชิงนิเวศเศรษฐกิจ: ฐานข้อมูลวัฏจักรชีวิตของโรตารีคอมเพรสเซอร์
หน่วยงานวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
ผู้ให้ทุน ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ระยะเวลาวิจัย 2546-07-21 ถึง 2548-01-21
บทคัดย่อ วิธีการประเมินวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment; LCA) ของผลิตภัณฑ์หรือของกระบวนการผลิตหรือการบริการ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมากว่า 20 ปี เพื่อศึกษาถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต หรือการบริการนั้นๆ ซึ่งข้อมูลจาก LCA สามารถนำมาใช้ศึกษาแนวทางในการออกแบบผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต หรือการบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (EcoDesign) การวิจัยและพัฒนาด้าน LCA จำเป็นต้องใช้ฐานข้อมูลวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Inventory; LCI) ได้แก่ ข้อมูลการใช้ทรัพยากร การใช้พลังงาน ข้อมูลของเสีย เป็นต้น ในหลายๆ ประเทศได้มีการศึกษา และพัฒนาฐานข้อมูลการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตลอดวงชีวิตแล้วอย่างกว้างขวาง แต่สำหรับประเทศไทยในปัจจุบันยังมีฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่ค่อนข้างน้อย งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการเตรียมฐานข้อมูลสำหรับ EcoDesign ของผลิตภัณฑ์ “โรตารี่คอมเพรสเซอร์” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ วัตถุดิบและพลังงานที่สำคัญที่ใช้ในขั้นตอนต่างๆของโรตารี่คอมเพรสเซอร์ประกอบด้วย เหล็กกล้า ทองแดง เหล็กหล่อ ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเลียมเหลว ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงต่างๆ ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ วัตถุประสงค์ของการวิจัยคือเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้ทรัพยากรและของเสียที่ปล่อยออกมาจากการผลิตโรตารี่คอมเพรสเซอร์ อีกทั้ง จะทำการศึกษา วิเคราะห์ และประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในขั้นตอนการผลิต การขนส่ง การใช้ และการกำจัด โดยใช้วิธีการประเมินวัฏจักรชีวิต รวมถึง แนะนำแนวคิดด้าน EcoDesign เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการผลิตโรตารี่คอมเพรสเซอร์ โดยขอบเขตของงานวิจัยคือ การศึกษาคอมเพรสเซอร์ขนาด 18,000 Btu/h และทำการศึกษา 4 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนการผลิตซึ่งประกอบด้วยการผลิตวัสดุและการผลิตผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการขนส่ง ขั้นตอนการใช้ และขั้นตอนการกำจัด ประโยชน์ที่ได้จากงานวิจัยนี้คือทำให้เกิดฐานข้อมูลการผลิตโรตารี่คอมเพรสเซอร์ ซึ่งสามารถนำไปเป็นข้อมูลช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และยังช่วยเพิ่มศักยภาพทางด้านการใช้พลังงาน ทรัพยากรภายในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผลการวิจัยนี้เป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ LCA สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้
ที่มา http://www2.mtec.or.th/th/search_sys/search_proj/detail.asp?proj_id=MT-B-46-MAC-07-139-I&lang=1
หน่วยงานวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
ผู้ให้ทุน ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ระยะเวลาวิจัย 2546-07-21 ถึง 2548-01-21
บทคัดย่อ วิธีการประเมินวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment; LCA) ของผลิตภัณฑ์หรือของกระบวนการผลิตหรือการบริการ ได้ถูกพัฒนาขึ้นมากว่า 20 ปี เพื่อศึกษาถึงผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมตลอดวัฏจักรชีวิตของผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต หรือการบริการนั้นๆ ซึ่งข้อมูลจาก LCA สามารถนำมาใช้ศึกษาแนวทางในการออกแบบผลิตภัณฑ์ กระบวนการผลิต หรือการบริการที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้น (EcoDesign) การวิจัยและพัฒนาด้าน LCA จำเป็นต้องใช้ฐานข้อมูลวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Inventory; LCI) ได้แก่ ข้อมูลการใช้ทรัพยากร การใช้พลังงาน ข้อมูลของเสีย เป็นต้น ในหลายๆ ประเทศได้มีการศึกษา และพัฒนาฐานข้อมูลการวิเคราะห์ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมของผลิตภัณฑ์ตลอดวงชีวิตแล้วอย่างกว้างขวาง แต่สำหรับประเทศไทยในปัจจุบันยังมีฐานข้อมูลที่เกี่ยวข้องอยู่ค่อนข้างน้อย งานวิจัยนี้จึงมุ่งเน้นการเตรียมฐานข้อมูลสำหรับ EcoDesign ของผลิตภัณฑ์ “โรตารี่คอมเพรสเซอร์” ซึ่งเป็นส่วนประกอบสำคัญของเครื่องปรับอากาศ นอกจากนี้ วัตถุดิบและพลังงานที่สำคัญที่ใช้ในขั้นตอนต่างๆของโรตารี่คอมเพรสเซอร์ประกอบด้วย เหล็กกล้า ทองแดง เหล็กหล่อ ก๊าซธรรมชาติ ปิโตรเลียมเหลว ไฟฟ้าและเชื้อเพลิงต่างๆ ซึ่งกล่าวได้ว่าเป็นทรัพยากรที่ไม่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ วัตถุประสงค์ของการวิจัยคือเพื่อเก็บรวบรวมข้อมูลการใช้ทรัพยากรและของเสียที่ปล่อยออกมาจากการผลิตโรตารี่คอมเพรสเซอร์ อีกทั้ง จะทำการศึกษา วิเคราะห์ และประเมินผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมในขั้นตอนการผลิต การขนส่ง การใช้ และการกำจัด โดยใช้วิธีการประเมินวัฏจักรชีวิต รวมถึง แนะนำแนวคิดด้าน EcoDesign เพื่อพัฒนาและปรับปรุงการผลิตโรตารี่คอมเพรสเซอร์ โดยขอบเขตของงานวิจัยคือ การศึกษาคอมเพรสเซอร์ขนาด 18,000 Btu/h และทำการศึกษา 4 ขั้นตอนคือ ขั้นตอนการผลิตซึ่งประกอบด้วยการผลิตวัสดุและการผลิตผลิตภัณฑ์ ขั้นตอนการขนส่ง ขั้นตอนการใช้ และขั้นตอนการกำจัด ประโยชน์ที่ได้จากงานวิจัยนี้คือทำให้เกิดฐานข้อมูลการผลิตโรตารี่คอมเพรสเซอร์ ซึ่งสามารถนำไปเป็นข้อมูลช่วยในการปรับปรุงประสิทธิภาพการผลิต และยังช่วยเพิ่มศักยภาพทางด้านการใช้พลังงาน ทรัพยากรภายในประเทศ นอกจากนี้ยังสามารถใช้ผลการวิจัยนี้เป็นแนวทางในการประยุกต์ใช้ LCA สำหรับผลิตภัณฑ์อื่นๆ ได้
ที่มา http://www2.mtec.or.th/th/search_sys/search_proj/detail.asp?proj_id=MT-B-46-MAC-07-139-I&lang=1
National Database Development of Primary Energy and Basic Materials
Title National Database Development of Primary Energy and Basic Materials
Institution National Metal and Materials Technology Center
Source of Funds MTEC National Science and Technology Development Agency
Coverage 2006-04-21 to 2008-10-21
Abstract Life Cycle Assessment (LCA) is a methodology for assessing environmental burdens throughout life cycle of products from extraction, manufacturing, transportation, use, recycle and disposal by considering ecology, human health, and resource depletion. Results from LCA study can be used as guidelines for designing more environmental friendly products, improving production processes to reduce environmental impacts and to increase efficiency. In order for Thailand to respond and prepare for the increase of competitiveness ability and the trends of sustainable development, it is urgent to begin with primary structure especially primary energy and basic materials. For this research, National database development project will be established to fulfill the requirement of the country to catch the global trends of environmental preservation and to add values in competition or to respond to the increase incompetitiveness ability and the trend of sustainable development. Initially, relevant research papers and current status of Thailand and other countries such as Japan, Korea and USA will be thoroughly reviewed. The expected outputs of this research are the national database of primary energy and basic materials, which include natural gas, fuel oil, petrochemical product, plastic and ceramic.. Moreover, this research proposes to set up network and cooperation between stakesholders on LCA database and to establish the center for database management.
ที่มา http://www2.mtec.or.th/th/search_sys/search_proj/detailEN.asp?proj_id=MT-B-49-ENV-07-006-I&lang=0
Institution National Metal and Materials Technology Center
Source of Funds MTEC National Science and Technology Development Agency
Coverage 2006-04-21 to 2008-10-21
Abstract Life Cycle Assessment (LCA) is a methodology for assessing environmental burdens throughout life cycle of products from extraction, manufacturing, transportation, use, recycle and disposal by considering ecology, human health, and resource depletion. Results from LCA study can be used as guidelines for designing more environmental friendly products, improving production processes to reduce environmental impacts and to increase efficiency. In order for Thailand to respond and prepare for the increase of competitiveness ability and the trends of sustainable development, it is urgent to begin with primary structure especially primary energy and basic materials. For this research, National database development project will be established to fulfill the requirement of the country to catch the global trends of environmental preservation and to add values in competition or to respond to the increase incompetitiveness ability and the trend of sustainable development. Initially, relevant research papers and current status of Thailand and other countries such as Japan, Korea and USA will be thoroughly reviewed. The expected outputs of this research are the national database of primary energy and basic materials, which include natural gas, fuel oil, petrochemical product, plastic and ceramic.. Moreover, this research proposes to set up network and cooperation between stakesholders on LCA database and to establish the center for database management.
ที่มา http://www2.mtec.or.th/th/search_sys/search_proj/detailEN.asp?proj_id=MT-B-49-ENV-07-006-I&lang=0
การสร้างฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของการผลิตพลังงานและวัสดุพื้นฐานของประเทศ
ชื่อเรื่อง การสร้างฐานข้อมูลด้านสิ่งแวดล้อมของการผลิตพลังงานและวัสดุพื้นฐานของประเทศ
หน่วยงานวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
ผู้ให้ทุน ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ระยะเวลาวิจัย 2549-04-21 ถึง 2551-10-21
บทคัดย่อ การประเมินวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment; LCA) เป็นวิธีการในการประเมินหาปัญหาและผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม
โดยเน้นผลเชิงปริมาณ ซึ่งเกี่ยวเนื่องตลอดช่วงชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การสกัดหรือการได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่งและการแจกจ่าย การใช้งาน
ผลิตภัณฑ์ การใช้ซ้ำ/การนำกลับมาใช้ใหม่ และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังการใช้งาน โดยพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมไปถึงระบบนิเวศ
สุขอนามัยของชุมชน และการลดลงของทรัพยากร ทั้งนี้เพื่อนำผลไปใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ การปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือเพิ่มทางเลือกในการผลิต เพื่อ
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยนี้เป็นโครงการที่ตอบสนองความต้องการของประเทศในด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง
ในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การเตรียมรองรับการออกฉลากสิ่งแวดล้อมที่ใช้ฐานข้อมูลวัฏจักรชีวิต
(Eco-Label Type III) ซึ่งเป็นอนุกรมหนึ่ง ISO 14020 รวมถึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีเป้าหมายในการสร้างฐาน
ข้อมูลของ กลุ่มพลังงาน นั่นคือ น้ำมันและ ก๊าซ ธรรมชาติ และกลุ่มวัสดุพื้นฐาน เช่น พลาสติก ปิโตรเคมี เซรามิก โลหะ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลอ้างอิงของประเทศ
สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมไทยในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วยงานวิจัยนี้จะทำการรวบรวมข้อมูลงานวิจัยที่
เกี่ยวข้อง สำรวจสถานการณ์เบื้องต้นของฐานข้อมูลในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และไต้หวัน รวมถึงมีการจัด
ตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานเพื่อความโปร่งใสและความถูกต้องของการเก็บข้อมูล รวมถึงเป็นการทำงานแบบเชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่าย สำหรับ
ประโยชน์ที่ได้จากงานวิจัยนี้คือ ทำให้เกิดฐานข้อมูลการผลิตพลังงานและวัสดุพื้นฐานที่เป็นของประเทศไทยและเป็นเหมือนดัชนีอ้างอิงในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่
คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
ที่มา http://www.mtec.or.th/th/search_sys/search_proj/detail.asp?proj_id=MT-B-49-ENV-07-006-I&lang=1
หน่วยงานวิจัย ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ
ผู้ให้ทุน ศูนย์เทคโนโลยีโลหะและวัสดุแห่งชาติ สำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ
ระยะเวลาวิจัย 2549-04-21 ถึง 2551-10-21
บทคัดย่อ การประเมินวัฏจักรชีวิต (Life Cycle Assessment; LCA) เป็นวิธีการในการประเมินหาปัญหาและผลกระทบต่อ สิ่งแวดล้อม
โดยเน้นผลเชิงปริมาณ ซึ่งเกี่ยวเนื่องตลอดช่วงชีวิตของผลิตภัณฑ์ ตั้งแต่การสกัดหรือการได้มาซึ่งวัตถุดิบ กระบวนการผลิต การขนส่งและการแจกจ่าย การใช้งาน
ผลิตภัณฑ์ การใช้ซ้ำ/การนำกลับมาใช้ใหม่ และการจัดการซากผลิตภัณฑ์หลังการใช้งาน โดยพิจารณาผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมที่ครอบคลุมไปถึงระบบนิเวศ
สุขอนามัยของชุมชน และการลดลงของทรัพยากร ทั้งนี้เพื่อนำผลไปใช้ในการออกแบบผลิตภัณฑ์ การปรับปรุงกระบวนการผลิต หรือเพิ่มทางเลือกในการผลิต เพื่อ
ลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และให้มีการใช้ทรัพยากรอย่างมีประสิทธิภาพ งานวิจัยนี้เป็นโครงการที่ตอบสนองความต้องการของประเทศในด้านสิ่งแวดล้อม ทั้ง
ในเรื่องการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมไม่ว่าจะเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างยั่งยืน การเตรียมรองรับการออกฉลากสิ่งแวดล้อมที่ใช้ฐานข้อมูลวัฏจักรชีวิต
(Eco-Label Type III) ซึ่งเป็นอนุกรมหนึ่ง ISO 14020 รวมถึงเป็นการเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยมีเป้าหมายในการสร้างฐาน
ข้อมูลของ กลุ่มพลังงาน นั่นคือ น้ำมันและ ก๊าซ ธรรมชาติ และกลุ่มวัสดุพื้นฐาน เช่น พลาสติก ปิโตรเคมี เซรามิก โลหะ เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลอ้างอิงของประเทศ
สามารถนำไปใช้ประโยชน์สำหรับอุตสาหกรรมไทยในการสนับสนุนผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมได้อีกด้วยงานวิจัยนี้จะทำการรวบรวมข้อมูลงานวิจัยที่
เกี่ยวข้อง สำรวจสถานการณ์เบื้องต้นของฐานข้อมูลในประเทศไทยและประเทศอื่นๆ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลี สหรัฐอเมริกา สหภาพยุโรป และไต้หวัน รวมถึงมีการจัด
ตั้งคณะกรรมการและคณะทำงานเพื่อความโปร่งใสและความถูกต้องของการเก็บข้อมูล รวมถึงเป็นการทำงานแบบเชื่อมโยงกันเป็นระบบเครือข่าย สำหรับ
ประโยชน์ที่ได้จากงานวิจัยนี้คือ ทำให้เกิดฐานข้อมูลการผลิตพลังงานและวัสดุพื้นฐานที่เป็นของประเทศไทยและเป็นเหมือนดัชนีอ้างอิงในการผลิตผลิตภัณฑ์ที่
คำนึงถึงสิ่งแวดล้อม
ที่มา http://www.mtec.or.th/th/search_sys/search_proj/detail.asp?proj_id=MT-B-49-ENV-07-006-I&lang=1
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)